บทที่ 3 สวนทาง

"ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ!" กัดฟันตอบเพราะรู้นิสัยของคนที่อยู่ข้างนอก ว่าเอาแต่ใจแค่ไหน ถ้าเขาไม่ได้คำตอบก็จะถามและหงุดหงิดไม่เลิก

"เปิดประตู!" ปภังกรยังย้ำคำสั่งเดิม เพราะไม่ไว้ใจ       รอยเลือดที่เขาเห็นมีปริมาณไม่น้อย ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไร          กันแน่ พสิกาเป็นคนหยิ่งในศักดิ์ศรี เธอย่อมไม่ร้องขอความช่วยเหลือจากเขา เขาคงจะใจดำเกินไปถ้าปล่อยให้เธอมา    ตายคาห้องของเขา

"ฉันแค่... เป็นประจำเดือน" บอกออกไปแบบนั้นเพราะมั่นใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ถึงแม้อาการปวดและปริมาณเลือดจะมากกว่าวันแรกที่ประจำเดือนมา ถ้าเลือดนี่ไม่ใช่ประจำเดือนแล้วมันเป็นเลือดอะไรกัน ใบหน้าสวยซีดเผือด    เมื่อคิดไปต่าง ๆ นานา คนที่จะตอบคำถามเธอได้คือหมอ      เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ร่างบางก็พยุงตัวเองลุกขึ้น อาบน้ำชำระล้างทำความสะอาดร่างกาย จะได้พาตัวเองออกไปจากที่นี่ให้       เร็วที่สุด

ปภังกรยืนมองบานประตูห้องน้ำ โล่งใจที่ได้ยินคำตอบของเธอ วันนี้เขาหนักมือเพราะนึกโมโหที่เธอต่อต้านเขา จึงอดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะกลัวว่าสาเหตุมันมาจากเขา ร่างสูงถอยกลับออกมานั่งรอที่ขอบเตียงกว้าง เขามีเรื่องจะคุยกับเธอ      เงินจำนวน 500,000 อาจจะมากเกินไป ถ้าเธอมีคำพูดดี ๆ     เขาอาจจะลดหย่อนให้เธอบ้าง

พสิกานึกขอบใจความรอบคอบของตัวเอง ที่มีของใช้จำเป็นติดกระเป๋ามาเสมอ หญิงสาวอาบน้ำใส่เสื้อผ้าชุดเดิมที่มีรอยขาดเป็นทางตรงช่วงคอและหลังเพราะความเอาแต่ใจ    ของคนด้านนอก ปภังกรใจร้อนกว่าทุก ๆ ครั้ง ทันทีที่เห็นหน้าเขาลากเธอขึ้นเตียง ตลอดเวลาเกือบสองชั่วโมงที่ร่วมรักกับเขา เธอเหนื่อยจนเผลอหลับไปแบบไม่รู้ตัว มือบางแต่งแต้มเครื่องสำอางลงบนใบหน้าที่ซีดเผือด เคลือบสีแดงสดบนปาก    ที่บวมช้ำ เพื่อปกปิดร่องรอย กลับบ้านเวลานี้คงต้องทำให้คน    ที่บ้านเข้าใจว่าเธอเพิ่งกลับจากสถานบันเทิง เพราะไม่อยากให้แม่นมเป็นห่วง ดวงตากลมโตไหววูบเมื่อนึกถึงใครอีกคน       พ่อจะรู้บ้างไหมว่าสองเดือนมานี้เธอเหนื่อยที่สุด กิจการร้านอาหารซบเซาเพราะพิษเศรษฐกิจ แต่รายจ่ายกลับเพิ่มขึ้น ถ้าแค่ใช้จ่ายภายในบ้านเธอก็ยังรับมือไหว แต่มันมีอีกส่วน       ที่เพิ่มเข้ามาและเป็นปริมาณไม่น้อย ถ้าเงินเก็บที่มีอยู่หมดลง บางทีเธออาจจะหาทางออกใหม่ให้ตัวเอง เพื่อนพ่อถูกใจเธอหลายคน และพ่อก็คงพอใจถ้าเธอเลือกใครสักคนที่พ่อพยายามยัดเยียดให้ ทำให้พ่อมีความสุขและตัวเธอเองก็จะได้หลุดออกไปจากนรกขุมนี้ด้วย เส้นทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไรเธอก็ไม่อาจรู้ แต่เมื่อความอดทนมาถึงขีดสุด เธอก็คงต้องทำ ไหน ๆ ก็เสียสิ่งที่มีค่าไปแล้ว จะเสียตัวอีกสักครั้งก็คงไม่มีอะไรน่าเสียใจ ถอนหายใจให้ตัวเอง เมื่อความเจ็บปวดกลับมาเล่นงาน มือบางกวาดเครื่องสำอางลงกระเป๋า พลิกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู     ตีสี่... เวลานี้จะมีหมอที่ไหนให้ไปหา คงต้องอาศัยยาแก้ปวดประทังไปก่อน ถ้ามันดีขึ้นหรือทุเลาลงก็คงไม่ต้องไปหาหมอ

"มัวทำอะไรอยู่!"

ทันทีที่เท้าบางก้าวเข้ามาให้ห้องนอน เสียงแหบห้าวจิกกัดก็ดังมาจากมุมหนึ่งของห้อง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน เมื่อเห็นเงาของคนร่างสูงนั่งอยู่ปลายเตียง เขายังอยู่อีกหรือ

"ขอโทษนะคะที่รบกวนคุณ" ตอบอย่างมีมารยาท ก่อนจะก้าวเดินผ่านหน้าเขาไปที่ประตู

"คุยกันก่อนไหม" ปภังกรเอ่ยเมื่อเธอเดินผ่านหน้าเขาไป คำพูดของเขาส่งผลให้มือที่จับลูกบิดประตูชะงักค้าง

"คะ" ขานรับทั้ง ๆ ที่ยังยืนอยู่ท่าเดิมคือหันหลังให้เขา

รอคอยว่าเขาจะพูดอะไร

"เงิน 500,000 มัน..."คำพูดที่เหลือค้างไว้แค่ริมฝีปาก     เมื่อเธอขัดขึ้น

"มันน้อยไปใช่ไหม ไว้ฉันจะเพิ่มให้นะคะ"

ตอบไปตามความเข้าใจของตัวเอง 30 ล้าน ผ่อนเดือนละ 500,000 ใช้เวลาตั้งหลายปีกว่าจะหมด เขาคงอยากได้เงินคืนเร็ว ๆ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้น้ำตาก็รื้นตรงหัวตา ดอกเบี้ยที่จ่าย     ให้เขาคงไม่มีความหมายอะไร เพราะเขาไม่ได้อยากได้มัน       สักนิด ที่ปภังกรทำแบบนี้ก็คงต้องการหลักประกัน ว่าเธอจะ    ไม่หนีไปไหน และเมื่อถึงเวลาที่เขาเบื่อหน่ายเธอก็คงต้องไป

"แค่นี้ใช่ไหมคะ ไว้ฉันจะทักมาว่าเพิ่มให้คุณได้เดือนละเท่าไร" พูดจบก็เปิดประตูแล้วก้าวออกไป

"ผมยังพูดไม่จบ!"

ปภังกรตวาดลั่น เมื่อเธอก้าวออกไปจากห้องนอน คำพูดเขาไม่ได้มีผลกับหญิงสาวเลยสักนิด เมื่อเธอเดินออกไปจนถึงประตูแล้วเปิดมันออกไป ตาคู่คมมองเห็นรอยขาดเป็นทางยาวที่ด้านหลังของชุดสวยรัดรูป ก่อนจะลุกตามออกไป โมโหที่เธอออกไปสภาพนั้น รถเธอจอดอยู่ชั้นไหนก็ไม่รู้ แผ่นหลังขาวเนียนเปิดเปลือยลงมาจนถึงช่วงเอว คิดว่าจะเดินไปได้ถึงไหนกัน     คงไม่พ้นถูกใครสักคนลากเข้าในห้อง

เท้าบางภายใต้รองเท้าส้นสูงสี่นิ้วก้าวอย่างมั่นคง ทั้ง ๆ ที่ใจเจ็บร้าว เมื่อหาทางออกให้ตัวเองไม่เจอ เธอจะหาเงินจากไหนได้อีก ทุกวันนี้ก็ตันทุกทาง ร่างบางหยุดชะงักเมื่อปวดที่ท้องน้อยจนก้าวขาไม่ออก ตาพร่าเลือน อีกสองก้าวเธอจะถึงลิฟต์และจะได้ไปจากที่นี่... อดทนอีกนิดนะก้อย

โครม!

"ก้อย!" คนที่เดินตามมาร้องออกมาสุดเสียง เมื่อเห็นเธอร่วงลงไปกองกับพื้นต่อหน้าต่อตา

"ก้อย! โธ่โว้ย! จะอวดเก่งไปถึงไหนกัน" ปภังกรโมโห

iu[ช้อนร่างบางเข้าสู่วงแขน

"มีอะไรให้ช่วยไหมครับ" คนที่ผ่านมาถามขึ้น เมื่อเห็นเขาอุ้มคนหมดสติ

"เมียผมไม่สบาย ช่วยกดลิฟต์ให้หน่อยครับ"

บอกกับเขาคนนั้น เมื่อต้องพาเธอไปหาหมอให้เร็วที่สุด ใบหน้าสวยภายใต้เครื่องสำอางหนา ดูยังไงมันก็ซีดจน           น่าตกใจ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป